ต้น

วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

คุณ แจ๊คกี้ เขียนถึง"องค์กรอิสระ..."



     วันนี้มีประเด็นที่อยากเขียนมาถกกันหน่อย ครับ มีเรื่องที่อยากเขียนหลายสัปดาห์แล้วแต่พลาดไปทุกที นั่นคือเรื่ององค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพของฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น สมาคมนักเตะอาชีพ, สมาคมผู้ฝึกสอนอาชีพ, ผู้ตัดสินอาชีพ (ซึ่งน่าจะมีอยู่แล้ว) อันเป็นอีกหนึ่งหน่วยที่บรรจุรวมอยู่ในโครงสร้างของฟุตบอลอาชีพ


        ผมจำได้ว่าเคยคุยกับ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน รองอธิบดีกรมพลศึกษา นานมาแล้วว่า น่าจะมีการจัดตั้งองค์กรผู้ฝึกสอนอาชีพขึ้นมา รวมเป็นกลุ่มเป็นสหภาพ เพื่อดูแลประโยชน์ช่วยเหลือคนในวงการผู้ฝึกสอน และทำประโยชน์ให้สังคมฟุตบอล ในอังกฤษและอีกหลายชาติที่เป็นบอลอาชีพเขามีองค์กรนี้มานานมากแล้ว

        ถ้าจะถามว่ามีประโยชน์อะไรมากมายขนาดนั้นหรือไม่ คำตอบคงไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ในแง่เงินทอง...แต่หากการรวมกลุ่ม รวมตัวกันเป็นสหภาพมันหมายถึงวิชาชีพนี้มีความมั่นคง มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ให้ใครมาดูถูกดูแคลนได้ ซึ่งจะว่าไปวงการฟุตบอลบ้านเรานั้นไม่ค่อยให้เกียรติและเคารพวิชาชีพ "ผู้ฝึกสอน" สักเท่าไหร่

       ทั้งที่ปัจจุบันนี้ทั่วโลกต่างเน้นและให้ความสำคัญกับวิชาชีพ นี้จนสามารถออกใบอนุญาตการทำงานเหมือนที่หมอ, วิศวกร, ทนายความ มีกัน นั่นคือโค้ชต้องผ่านการอบรมเพื่อรับใบประกอบวิชาชีพอย่างที่รู้จักกันดีว่า "ไลเซนส์" (Licence) นั่นแหละครับ ตั้งแต่ระดับ ซี, บี, เอ และ โปร ไลเซนส์ (วิชาชีพระดับสูง) ซึ่งฟีฟ่ากำหนดออกมาหลายปี และทั่วโลกแม้กระทั่งในอังกฤษเองที่ไม่เคยให้ความสำคัญกลับต้องยอมรับว่ามัน เป็นเรื่องดี นักเตะอาชีพทุกคนเลิกเล่นแล้วต้องไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อมาเป็นผู้ฝึกสอน ทั้งเรื่องศาสตร์และทัศนคติการทำงาน

        การมีใบอนุญาตทำงานคือเรื่องสำคัญ และบ้านเรามองข้ามไป จนทำให้ทุกวันนี้นับคนได้ครับที่มีใบอนุญาต เอ ไลเซนส์ เพื่อคุมทีมระดับไทยลีก...

       โค้ชต้องมีใบอนุญาตเพื่อทำงานและให้คนในสังคมเห็นว่านี่คือ อาชีพที่มีเกียรติ มีความสามารถ ไม่ใช่นึกอะไรได้ก็อยากมาทำทีมบอล มันคนละเรื่องเดียวกัน เช่นเดียวกับองค์กรผู้ฝึกสอนฟุตบอลอาชีพต้องเริ่มก่อตัวได้แล้ว ตอนนี้มีทั้งไทยลีก, ยามาฮา ลีกวันและลีกภูมิภาคดิวิชั่นสอง มีโค้ชมากมายในเมืองไทยที่ทั้งมีความรู้, มีประสบการณ์ ทั้งประเภทครูพักลักจำ กระโดดเข้ามาเยอะ ยังมีประเภทแอบแฝงคือโค้ชเบื้องหลังอีกเพียบ

       ตรงนี้น่าสนใจนะครับ...เพราะดูเหมือนว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่เข้า ใจง่าย กติกา ไม่ซับซ้อนมากและเป็นกีฬาที่เล่นกันอยู่ทุกหัวระแหงในประเทศ แถมยังมีกลุ่มกองเชียร์ที่ติดตามอย่างเหนียวแน่น ทำให้เราคิดไปว่าฟุตบอลนั้นทำไม่ยาก ง่ายจะตายไป

        นั่นจึงทำให้คนที่อาจจะไม่ชอบตั้งแต่แรกเฉยๆ กับฟุตบอล พอมาวันหนึ่งอยากเข้ามาทำทีม อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเกมฟุตบอล จะด้วยเหตุผลที่กระแสฟุตบอลดังเลยต้องเกาะและโหนกระแส เพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง และก็คิดว่าฟุตบอลนี่มันหมูจริงๆ

        บางคนลืมตัวจนกระทั่งตั้งตนเป็นโค้ชใหญ่ ทั้งที่ฟุตบอลยังเตะไม่เป็นก็มี พยายามเข้ามามีบทบาท ซึ่งเมื่อก่อนสมัยฟุตบอลมีคนดูสองสามร้อยคนก็ไม่เคยเห็นศีรษะคนพวกนี้ และก็แปลกที่ไม่มีใครสนใจจดจำรวมทั้งมองข้ามไป แต่วันหนึ่งพอบอลดังก็แห่แหนกันเข้ามาเพราะผลประโยชน์มันเยอะ

        คนพวกนี้ทำให้โค้ชทำงานยากครับ เพราะพวกนี้ไม่เคยให้เกียรติโค้ช และคิดว่าฟุตบอลเดินได้ด้วยเงิน ไม่ใช่โค้ช ซึ่งถ้าเป็นบอลอาชีพที่เมืองนอกเราคงเห็นเลยว่า โค้ชหรือผู้ฝึกสอนที่เขาเรียกว่า ผจก. ในอังกฤษ, เทรนเนอร์ ในภาคพื้นยุโรปนั้น มีความสำคัญมาก

        นั่นคืองานหลักของพวกเขาในการสร้างรูปแบบการเล่น...ทำทีมเพื่อ ประสบความสำเร็จ ที่ยุโรปให้เครดิตและมองว่าโค้ชสำคัญยิ่ง แต่ไม่ใช่เมืองไทยที่โค้ชเป็นคนที่ไม่ได้รับความสำคัญอะไรทั้งนั้น บางทีมนักเตะยังไม่เคารพโค้ชเลยละครับ

        ตรงนี้บรรดาผู้ฝึกสอนในบ้านเราก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้าง องค์กรขึ้นเพื่อมาช่วยเหลือ ตรวจดูผลประโยชน์ของโค้ชว่าได้รับความยุติธรรมหรือไม่ ทั้งเรื่องสัญญาและเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

        นอกจากโค้ชแล้วนักเตะอาชีพเองก็ต้องรวมตัวกันตั้งสมาคมนักเตะ อาชีพขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดเกิดปัญหาอะไรก็จะได้ช่วยเหลือและดำเนินการผ่อนหนักให้เป็น เบาและทำประโยชน์ให้กับสังคม รวมทั้งรักษาผลประโยชน์ให้กับวิชาชีพของตัวเองด้วย

        โครงสร้างมันก็ประมาณนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขนาดไหนสำหรับองค์กรอิสระเหล่านี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วมานั่งคิดไตร่ตรองดู จะพบว่ากีฬาประเภททีมเนี่ยไม่ค่อยเหมาะกับคนไทยสักเท่าไหร่ เพราะเรามักประสานงา...กันมากกว่าประสานงาน

        ทุกคนแล้วแต่ต้องการเป็นคน สำคัญ...คนที่สังคมยอมรับ แม้ว่าจะไร้ความสามารถ แต่ถ้ามีอิทธิพล มีเงิน มีตำแหน่ง ไม่ต้องมีความสามารถก็เป็นที่เชิดชูได้ในสังคมไทย แล้วการจัดตั้งองค์กรเหล่านี้ขึ้นมา คงต้องอาศัยโต้โผ เจ้าภาพ อีกทั้งองค์กรนี้มีผลประโยชน์น้อยมากครับ ถ้าว่ากันถึงตัวเงิน นี่แหละที่เป็นปัญหาว่าจะตั้งองค์กรไปเพื่ออะไร เพราะไม่มีผลประโยชน์เรื่องเงิน ดูแล้วองค์กรอิสระอย่างโค้ชอาชีพ, นักเตะอาชีพ น่าจะอยู่ในความฝันซะละมั้ง

ขอขอบคุณ คุณ Jackie
จาก http://www.siamsport.co.th  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น